หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

๏ เราควรมีส่วนร่วมในวันอีสเตอร์อย่างไร

อีสเตอร์ เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญมากที่สุดในศาสนาคริสต์ วันอีสเตอร์เป็นวันเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ขององค์พระเยซูคริสต์ หลังจากถูกตรึงกางเขนและสิ้นพระชนม์ไปแล้ว 3 วัน โดยวันที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละปีแต่กำหนดให้ทุกปีต้องจัดขึ้นในวันอาทิตย์ (เพราะเป็นวันที่ทรงถูกตรึงกางเขนตามพระคัมภีร์) เรียก วันอีสเตอร์

( มก.16:1-8 ) 1 ครั้นวันสะบาโตล่วงไปแล้ว มารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบ และนางสะโลเม ซื้อเครื่องหอมมาเพื่อจะไปชโลมพระศพของพระองค์
2 เวลารุ่งเช้าวันต้นสัปดาห์พอดวงอาทิตย์ขึ้นเขาก็มาถึงอุโมงค์
3 และเขาพูดกันว่า "ใครจะช่วยกลิ้งก้อนหินออกจากปากอุโมงค์"
4 เมื่อเขามองดูก็เห็นก้อนหินนั้นกลิ้งออกแล้ว เพราะเป็นก้อนหินโตมาก
5 ครั้นเขาเข้าไปในอุโมงค์แล้ว ได้เห็นหนุ่มคนหนึ่งนุ่งห่มผ้ายาวสีขาวนั่งอยู่ข้างขวา ผู้หญิงนั้นก็ตกตะลึง
6 ฝ่ายคนหนุ่มนั้นบอกเขาว่า "อย่าตกตะลึงเลย พวกท่านทั้งหลายมาหาพระเยซูชาวนาซาเร็ธซึ่งต้องตรึงไว้ที่กางเขน พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว พระองค์หาได้ประทับที่นี่ไม่ จงดูที่ที่เขาได้วางพระศพของพระองค์เถิด
7 แต่จงไปบอกพวกสาวกของพระองค์ทั้ง เปโตรเถิดว่า พระองค์เสด็จไปยังแคว้นกาลิลีก่อนท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะเห็นพระองค์ที่นั่น เหมือนพระองค์ตรัสไว้แก่พวกท่านแล้ว"
8 หญิงเหล่านั้นก็ออกจากอุโมงค์รีบหนีไป เพราะพิศวงตกใจจนตัวสั่น เขามิได้พูดกับผู้ใดเพราะเขากลัว  

เราควรมีส่วนร่วมในวันอีสเตอร์อย่างไร

1. มาร่วมด้วยใจนมัสการพระเจ้า ( ข้อ 1 - ซื้อเครื่องหอมมาเพื่อชะโลมพระศพ )
( ฟป.2:8-11 )  และเมื่อทรงปรากฏพระองค์ในสภาพมนุษย์แล้ว พระองค์ก็ทรงถ่อมพระองค์ลง ยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่กางเขน
9 พระคริสต์ทรงได้รับการยกขึ้นอย่าง สูงเหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงได้ทรงยกพระองค์ขึ้นอย่างสูงที่สุดด้วย และได้ทรงประทานพระนามเหนือนามทั้งปวงให้แก่พระองค์
10 เพื่อ `หัวเข่าทุกหัวเข่า' ในสวรรค์ก็ดี ที่แผ่นดินโลกก็ดี ใต้พื้นแผ่นดินโลกก็ดี `จะต้องคุกกราบลง' นมัสการในพระนามแห่งพระเยซูนั้น
11 และเพื่อ `ลิ้นทุกลิ้นจะยอมรับ' ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า อันเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดา

2.มาร่วมด้วยความกระตือรือร้น ( ข้อ2 - เวลารุ่งเช้า วันต้นสัปดาห์พอดวงอาทิตย์ขึ้น เขาก็มาถึงอุโมงค์ )
( สดด. 13:5 ) แต่ข้าพระองค์วางใจในความรักมั่นคงของพระองค์ จิตใจของข้าพระองค์จะเปรมปรีด์ในความรอดของพระองค์

3. ไปประกาศให้ผู้คนทราบถึงเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ ( ข้อ7. แต่จงไปบอกพวกสาวกของพระองค์ทั้ง เปโตรเถิดว่า พระองค์เสด็จไปยังแคว้นกาลิลีก่อนท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะเห็นพระองค์ที่นั่น เหมือนพระองค์ตรัสไว้แก่พวกท่านแล้ว" )
( รม.10:17 ) ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระวจนะของพระเจ้า

4. ดำเนินชีวิตใหม่ในชัยชนะของพระคริสต์
4.1 ดำเนินชีวิตที่มีความเชื่อ ในชัยชนะเหนือความบาป
( 1คร.15:55-58 ) โอ ความตาย เหล็กไนของเจ้าอยู่ที่ไหน โอ หลุมฝังศพ ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน
56 เหล็กไนของความตายนั้นคือบาป และฤทธิ์ของบาปคือพระราชบัญญัติ
57 แต่จงขอบพระคุณแด่พระเจ้า ผู้ทรงประทานชัยชนะแก่เราทั้งหลายโดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
58 เหตุฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า ท่านจงตั้งมั่นอยู่ อย่าหวั่นไหว จงปฏิบัติงานขององค์
( 1ยน.5:4-5 ) ด้วยว่าผู้ใดที่บังเกิดจากพระเจ้า ก็มีชัยชนะต่อโลก และนี่แหละเป็นชัยชนะซึ่งได้มีชัยต่อโลก คือความเชื่อของเราทั้งหลายนี่เอง
5 ใครเล่าชนะโลก เว้นไว้แต่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า

4.2 ชีวิตที่รับใช้พระเจ้าเต็มที่
( 1คร.15:58 )  เหตุฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า ท่านจงตั้งมั่นอยู่ อย่าหวั่นไหว จงปฏิบัติงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ด้วยว่าท่านทั้งหลายรู้ว่า โดยองค์พระผู้เป็นเจ้าการของท่านจะไร้ประโยชน์ก็หามิได้

4.3 ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง
( 1คร.15:6 ) ภายหลังพระองค์ทรงปรากฏแก่พวกพี่น้องกว่าห้าร้อยคนในคราวเดียว ซึ่งส่วนมากยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่บางคนก็ล่วงหลับไปแล้ว
( กจ.2:40-41 ) เปโตรจึงกล่าวอีกหลายคำเป็นพยานและได้เตือนสติเขาว่า "จงเอาตัวรอดจากยุคที่คดโกงนี้เถิด"  41 ผู้เชื่อได้รวมใจเป็นหนึ่งเดียว และได้รับความสุขคนทั้งหลายที่รับคำของเปโตรด้วยความยินดีก็รับบัพติศมา ในวันนั้นมีคนเข้าเป็นสาวกเพิ่มอีกประมาณสามพันคน
( กจ.5:12-16 ) คนจำนวนมากหายจากโรคต่างๆมีหมายสำคัญและการมหัศจรรย์หลายอย่างซึ่งอัครสาวก ได้ทำด้วยมือของตนในหมู่ประชาชน (พวกสาวกอยู่พร้อมใจกันในเฉลียงของซาโลมอน
13 และคนอื่นๆไม่อาจเข้ามาอยู่ด้วย แต่ประชาชนเคารพพวกเขามาก
14 มีชายหญิงเป็นอันมากที่เชื่อถือ ได้เข้ามาเป็นสาวกขององค์พระผู้เป็นเจ้ามากกว่าก่อน)
15 จนเขาหามคนเจ็บป่วยออกไปที่ถนนวางบนที่นอนและแคร่ เพื่อเมื่อเปโตรเดินผ่านไป อย่างน้อยเงาของท่านจะได้ถูกเขาบางคน
16 ประชาชนได้ออกมาจากเมืองที่อยู่ล้อมรอบกรุงเยรูซาเล็ม พาคนป่วยและคนที่มีผีโสโครกเบียดเบียนมาและทุกคนก็หาย

การคืนพระชนม์ของพระเยซู  หลังจากพระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์ทรงสำแดงพระองค์แก่สาวกของพระ องค์ และทรงกระทำกิจการหลายอย่าง เป็น การแสดงว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่พระองค์ ทรงสนทนาและสั่งสอนพวกเขาถึงเรื่องสวรรค์ พระองค์ทรงอยู่ท่ามกลางพวกสาวกเป็นเวลา 40 วัน ในวันสุดท้ายพระเยซูทรงพาอัครสาวก ของพระองค์ขึ้นไปยังภูเขาลูกหนึ่ง พระเยซู ได้สนทนากับเหล่าสาวกและทรงสั่งเหล่าสาวก ทรงตรัสว่า “ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดี ทรงมอบไว้แก่เราแล้ว เหตุ ฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุก ชาติให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาใน พระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระ วิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” เมื่อพระเยซูตรัสสั่งเขาแล้ว ในทันใดนั้นพระองค์ทรงลอยขึ้นไปในอากาศ มีเมฆคลุมพระองค์ขึ้นไปบนฟ้า พวกสาวกมองไม่เห็นพระองค์อีกเลย หนูรู้ไหมว่าพระองค์กำลังเสด็จ ไปไหน? พระองค์กำลังเสด็จไปสวรรค์เพื่อ ประทับอยู่ที่นั่นกับพระบิดาของพระองค์อีก ครั้งหนึ่ง เมื่อพระเยซูเสด็จไปสู่สวรรค์แล้ว ทูตสวรรค์สององค์ได้มาบอกเหล่าสาวกว่า พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์และทูตสวรรค์ได้บอก ด้วยว่า วันหนึ่งพระเยซูจะเสด็จกลับมาอีก เพื่อรับทุกคนที่รักพระองค์ไปยังสวรรค์.


คำค้น :เวปไซด์คริสเตียน,นมัสการ,พระคำภีร์,พระวจนะคำ,หนุนใจ,พระเยซูคริสต์,พระ เจ้า,God,การเฝ้าเดี่ยว,การอธิฐาน,วันคริสมาส,วันอีสเตอร์,วันวาเลนไท น์,หลักความเชื่อ,คำพยานชีวิต,ประสบการณ์พระพร,การรับใช้,พระวิญญานบริสุ ทธิ์,พระบุตร,Holly Spirit,คริสจักร,คำเทศนา,ดาวน์โหลดเพลงนมัสการ,ดาวน์โหลด เพลงworship,Download music,Mp3,Cristain music,Worship song,ห้องชั้นบน,ชุมชนคนรักพระเจ้า,คำพยานชีวิต,ผู้เชื่อใหม่,เปิดใจต้อนรับ พระเยซู,หนังคริสเตียน,ภาพยนต์คริสเตียน,ขายดีวีดี,หนังต่างประเทศ,พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นขึ้นจากความตาย , วันEaster,วันอีสเตอร์