คำสอนเทียมเท็จเป็นสิ่งที่เราพึงระวังมาก เพราะซาตานปรารถนาให้เรานั้นหลงหายไป ในขณะทีลัทธิเทียมเท็จสอนให้เป็นปฎิปักษ์ต่อพระคริสต์(Antichrist)
ดังจะเห็นในมัทธิว
บทที่7ข้อที่15ว่า จงระวังผู้พยากรณ์เท็จที่มาหาท่านนุ่งห่มดุจแกะ
แต่ภายในเขาร้ายกาจดุจสุนัขป่า เพราะบรรดาผู้เผยพระวจนะเท็จจะปรากฏตัวในคราบของลูกแกะอย่างแนบเนียน
ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงของพวกนั้นคือ ต้องการทำลายแกะของพระเจ้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พระเยซูทรงเตือนเราถึงคำสอนเท็จเป็นสิ่งหลอกลวง ในพระคำ
เอเฟซัส
บทที่5ข้อที่6ว่าอย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านด้วยคำที่ไม่มีสาระ
หลายคนอาจมีคำถาม
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คำสอนเหล่านั้นเป็นเท็จหรือไม่
เราจะพบคำตอบที่พระองค์ทรงตรัสไว้ใน
โรม บทที่16ข้อที่18เพราะว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ปรนนิบัติพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
แต่ได้ปรนนิบัติท้องของตัวเอง และได้ล่อลวงคนซื่อให้หลงด้วยคำดีคำอ่อนหวาน
สอดคล้องกับพระวจนะนี้
เราได้เรียนรู้ว่า มนุษย์เรามักจะหลงใหลในคำพูดที่หอมหวานเสมอ
แต่ในพระคัมภีร์จะเตือนสติเราไม่ให้เชื่อในคำพูดที่ล่อลวงเปรียบดั่ง น้ำผึ้งอาบยาพิษ
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ในโลกเรานี้
เต็มไปด้วยลัทธิเทียมเท็จมากมาย ล้วนเป็นสาเหตุให้คนจำนวนมากหลงหายไป
และแผนการของพวกนั้นคือ การแทรกตัวเข้ามาในคริสตจักรเพื่อการล่อลวง
เราขอยกพระคัมภีร์ที่อ้างอิงข้อความข้างบน เริ่มจาก 1ยอห์น บทที่4ข้อที่1ว่า ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆวิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณเหล่านั้นว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่
เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากออกเที่ยวไปในโลก และ 2เปโตร บทที่2ข้อที่1-2แต่ว่าได้มีผู้พยากรณ์เท็จท่ามกลาง ประชาชนทั้งหลายด้วย
เช่นเดียวกับที่จะมีอาจารย์เท็จท่ามกลางท่านทั้งหลาย ผู้ซึ่งจะแอบเอาลัทธิที่ออกนอกลู่นอกทางอันจะนำไปสู่ความหายนะเข้ามาด้วย
และจะปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ได้ทรงไถ่เขาไว้ และจะนำความพินาศอย่างฉับพลันมาถึงตนเอง
จะมีหลายคนประพฤติตามทางแห่งการสาปแช่งของเขา และเพราะคนเหล่านั้นเป็นเหตุ
ทางแห่งความจริงจะถูกกล่าวร้าย
สังเกตได้ว่า
ผู้ที่ถ่ายทอดพระวจนะพระเจ้าในคราบของมารซาตาน
จะบิดเบือนความจริงที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในพระคัมภีร์
แต่จะชักจูงให้หลงเชื่อในสิ่งที่ลัทธิของตนสอนแทน
สุดท้ายนี้ ขอให้พระเจ้าประทานสติปัญญาให้แก่เราทุกคนที่จะหนักแน่นในคำสอนของพระบิดาเหมือนชาวเมืองที่สัตย์ซื่อในการใคร่ครวญพระวจนะพระเจ้าทุกเช้าค่ำ ตามกิจการ บทที่17ข้อที่11กล่าวว่า
ชาวเมืองนั้นสุภาพกว่าชาวเมืองเธสะโลนิกา
ด้วยเขาได้รับพระวจนะด้วยความเต็มใจ และค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่า
ข้อความเหล่านั้นจะจริงดังกล่าวหรือไม่ และ เอเฟซัส บทที่ 4ข้อที่14เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไปถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง
และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง
ที่มา : gracezone.org
ที่มา : gracezone.org