หน้าเว็บ

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

คำสอนเท็จให้เป็นปฎิปักษ์ต่อพระคริสต์(Antichrist)


คำสอนเทียมเท็จเป็นสิ่งที่เราพึงระวังมาก เพราะซาตานปรารถนาให้เรานั้นหลงหายไป ในขณะทีลัทธิเทียมเท็จสอนให้เป็นปฎิปักษ์ต่อพระคริสต์(Antichrist)
ดังจะเห็นในมัทธิว บทที่7ข้อที่15ว่า จงระวังผู้พยากรณ์เท็จที่มาหาท่านนุ่งห่มดุจแกะ แต่ภายในเขาร้ายกาจดุจสุนัขป่า เพราะบรรดาผู้เผยพระวจนะเท็จจะปรากฏตัวในคราบของลูกแกะอย่างแนบเนียน ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงของพวกนั้นคือ ต้องการทำลายแกะของพระเจ้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระเยซูทรงเตือนเราถึงคำสอนเท็จเป็นสิ่งหลอกลวง ในพระคำ

เอเฟซัส บทที่5ข้อที่6ว่าอย่าให้ผู้ใดล่อลวงท่านด้วยคำที่ไม่มีสาระ

หลายคนอาจมีคำถาม เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คำสอนเหล่านั้นเป็นเท็จหรือไม่

เราจะพบคำตอบที่พระองค์ทรงตรัสไว้ใน โรม บทที่16ข้อที่18เพราะว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ปรนนิบัติพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา แต่ได้ปรนนิบัติท้องของตัวเอง และได้ล่อลวงคนซื่อให้หลงด้วยคำดีคำอ่อนหวาน

สอดคล้องกับพระวจนะนี้ เราได้เรียนรู้ว่า มนุษย์เรามักจะหลงใหลในคำพูดที่หอมหวานเสมอ แต่ในพระคัมภีร์จะเตือนสติเราไม่ให้เชื่อในคำพูดที่ล่อลวงเปรียบดั่ง น้ำผึ้งอาบยาพิษ


เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ในโลกเรานี้ เต็มไปด้วยลัทธิเทียมเท็จมากมาย ล้วนเป็นสาเหตุให้คนจำนวนมากหลงหายไป และแผนการของพวกนั้นคือ การแทรกตัวเข้ามาในคริสตจักรเพื่อการล่อลวง เราขอยกพระคัมภีร์ที่อ้างอิงข้อความข้างบน เริ่มจาก 1ยอห์น บทที่4ข้อที่1ว่า ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆวิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณเหล่านั้นว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากออกเที่ยวไปในโลก  และ 2เปโตร บทที่2ข้อที่1-2แต่ว่าได้มีผู้พยากรณ์เท็จท่ามกลาง ประชาชนทั้งหลายด้วย เช่นเดียวกับที่จะมีอาจารย์เท็จท่ามกลางท่านทั้งหลาย ผู้ซึ่งจะแอบเอาลัทธิที่ออกนอกลู่นอกทางอันจะนำไปสู่ความหายนะเข้ามาด้วย และจะปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ได้ทรงไถ่เขาไว้ และจะนำความพินาศอย่างฉับพลันมาถึงตนเอง จะมีหลายคนประพฤติตามทางแห่งการสาปแช่งของเขา และเพราะคนเหล่านั้นเป็นเหตุ ทางแห่งความจริงจะถูกกล่าวร้าย

สังเกตได้ว่า ผู้ที่ถ่ายทอดพระวจนะพระเจ้าในคราบของมารซาตาน จะบิดเบือนความจริงที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในพระคัมภีร์ แต่จะชักจูงให้หลงเชื่อในสิ่งที่ลัทธิของตนสอนแทน


สุดท้ายนี้ ขอให้พระเจ้าประทานสติปัญญาให้แก่เราทุกคนที่จะหนักแน่นในคำสอนของพระบิดาเหมือนชาวเมืองที่สัตย์ซื่อในการใคร่ครวญพระวจนะพระเจ้าทุกเช้าค่ำ ตามกิจการ บทที่17ข้อที่11กล่าวว่า
 ชาวเมืองนั้นสุภาพกว่าชาวเมืองเธสะโลนิกา ด้วยเขาได้รับพระวจนะด้วยความเต็มใจ และค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่า ข้อความเหล่านั้นจะจริงดังกล่าวหรือไม่ และ เอเฟซัส บทที่ 4ข้อที่14เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไปถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง

ที่มา : gracezone.org